Movie Review and Storyline: The Smurfs (2011)
Movie Review and Storyline: The Smurfs (2011)
Blog Article
รีวิวหนัง The Smurfs (2011) เดอะ สเมิร์ฟ
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง
ประเภทของภาพยนตร์ : แอนิเมชั่น / ตลก / แฟนตาซี / ครอบครัว
กำหนดฉายในประเทศไทย : 13 ตุลาคม 2554
ผู้กำกับ : ราชา กอสเนลล์
นักแสดงนำโดย : นีล แพทริค แฮร์ริส ,เจมา เมส์ , โซเฟีย เวอร์การา ,แฮงค์ อาซาเรีย
เรื่องย่อ :
เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านสเมิร์ฟ เหล่าสเมิร์ฟกำลังเตรียมการสำหรับเทศกาลพระจันทร์สีน้ำเงินที่ยิ่งใหญ่ แต่พ่อสเมิร์ฟกลับเห็นนิมิตบางอย่างที่น่าตกใจ ในภาพนิมิตนั้น สเมิร์ฟซุ่มซ่ามกำลังเอื้อมมือไปหยิบไม้กายสิทธิ์มังกร ในขณะเดียวกัน การ์กาเมล พ่อมดผู้ชั่วร้าย กำลังจับเหล่าสเมิร์ฟอย่างโหดเหี้ยม ไม่นานหลังจากนั้น การ์กาเมลออกตามหารากสมุนไพรที่จำเป็นและค้นพบทางเข้าสู่หมู่บ้านสเมิร์ฟ เหล่าสเมิร์ฟต่างหนีเอาตัวรอด ในขณะที่คลัมซีกลับวิ่งไปยังน้ำตกต้องห้ามโดยไม่ทันรู้ตัว พ่อสเมิร์ฟและเหล่าสเมิร์ฟคนอื่น ๆ ได้แก่ เฟ็ตต์, โก ร ชี่, เบรนนี่ และกัตซี่ วิ่งตามเขาไป ดูหนังเกาหลี เต็มเรื่อง ไม่มีโฆษณาคั่น ได้ฟรีที่นี่
เมื่อพระจันทร์สีน้ำเงินปรากฏขึ้น มันได้สร้างกระแสน้ำวนที่พัดพาเหล่าสเมิร์ฟทั้งหมดไปยังนิวยอร์กซิตี้ การ์กาเมลและอาซราเอล แมวคู่ใจของเขา ก็ติดตามพวกเขาไปยังเมืองใหญ่นี้เช่นกัน เหล่าสเมิร์ฟหลบหนีและเข้าไปพักพิงในอพาร์ตเมนต์ของแพทริกและเกรซ วินสโลว์ คู่สามีภรรยาที่กำลังรอคอยลูกคนแรก พวกเขาเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้แพทริกและเกรซฟัง ด้วยความเห็นใจ วินสโลว์จึงให้ที่พักและช่วยเหลือเหล่าสเมิร์ฟ
เช้าวันถัดมา แพทริกต้องการหาคำตอบจาก "นักดูดาว" เหล่าสเมิร์ฟจึงติดตามเขาไปยังที่ทำงานที่บริษัทเครื่องสำอาง Anjelou Cosmetics เพราะเชื่อว่าเขาจะช่วยได้ ในอีกด้านหนึ่ง การ์กาเมลใช้เส้นผมของสเมิร์ฟเฟ็ตต์เพื่อสกัดเอสเซนส์สเมิร์ฟ เพิ่มพลังเวทมนตร์ของเขา และตามหาสเมิร์ฟอย่างต่อเนื่อง เขาบุกเข้าไปใน Anjelou และสร้างความประทับใจให้โอดีล หัวหน้าของแพทริก ด้วยการใช้เวทมนตร์ทำให้แม่ของเธอกลับมามีความเยาว์วัย
เมื่อรู้ว่าแพทริกมีความเกี่ยวข้องกับสเมิร์ฟ การ์กาเมลไล่ล่าพวกเขาไปที่ FAO Schwarz และใช้เครื่องเป่าใบไม้สร้างความวุ่นวายขณะพยายามจับตัวเหล่าสเมิร์ฟ แม้เขาจะถูกจับกุมและถูกขังในคุก แต่ด้วยความช่วยเหลือจากฝูงแมลงวัน การ์กาเมลก็สามารถหลบหนีออกมาได้ และการไล่ล่าระหว่างเขากับเหล่าสเมิร์ฟยังคงดำเนินต่อไป
พ่อสเมิร์ฟใช้กล้องโทรทรรศน์ของเล่นเพื่อคำนวณวันที่เหมาะสมสำหรับการกลับบ้าน แต่พวกเขาจำเป็นต้องหาคาถาเพื่อทำให้แผนสำเร็จลุล่วง เหล่าสเมิร์ฟมุ่งหน้าไปยังร้านขายของเก่าเพื่อค้นหาหนังสือคาถา และพบ L'Histoire des Schtroumpfs เขียนโดยนักวิจัยชื่อเปโย ซึ่งบันทึกคาถาที่สามารถเปลี่ยนดวงจันทร์ให้กลายเป็นสีน้ำเงิน การ์กาเมลตามรอยพวกเขามาที่ร้านขายของเก่า และในที่สุดก็พบไม้กายสิทธิ์มังกรตามที่พ่อสเมิร์ฟเห็นในนิมิต เขาใช้เวทมนตร์ถ่ายโอนพลังเข้าไปในไม้กายสิทธิ์เพื่อเตรียมต่อสู้กับเหล่าสเมิร์ฟ พ่อสเมิร์ฟตัดสินใจฝากคาถานี้ไว้กับเบรนนี่ และยอมเสียสละตัวเองโดยสมัครใจเพื่อให้การ์กาเมลจับตัวไป
หลังจากนั้น คลัมซีก็พยายามเกลี้ยกล่อมเหล่าสเมิร์ฟคนอื่น ๆ ให้ช่วยพ่อสเมิร์ฟ พร้อมกับได้รับความช่วยเหลือจากแพทริก เหล่าสเมิร์ฟและแพทริกจึงเดินทางไปยังปราสาทเบลวีเดียร์ที่เซ็นทรัลพาร์ค ซึ่งการ์กาเมลกำลังเพิ่มพลังให้ไม้กายสิทธิ์มังกรด้วยแก่นแท้ของพ่อสเมิร์ฟ ระหว่างนั้นเบรนนี่สามารถเปลี่ยนดวงจันทร์ให้เป็นสีน้ำเงินสำเร็จ และเปิดประตูมิติที่นำไปยังหมู่บ้านสเมิร์ฟ จากนั้นเขาเรียกเหล่าสเมิร์ฟจากหมู่บ้านทั้งหมดให้มาช่วยต่อสู้
ในระหว่างการต่อสู้กับการ์กาเมล เหล่าสเมิร์ฟร่วมมือกันอย่างกล้าหาญ ขณะที่สเมิร์ฟเฟ็ตต์และแพทริกช่วยพ่อสเมิร์ฟที่ถูกจับตัวอยู่ กัตซี่สามารถขโมยไม้กายสิทธิ์มังกรมาได้ แต่ไม้กายสิทธิ์กลับหล่นระหว่างการต่อสู้ คลัมซีคว้าไว้ได้ทัน และใช้มันต่อสู้จนสามารถขับไล่การ์กาเมลให้พ่ายแพ้และหนีไปได้ ในที่สุด เหล่าสเมิร์ฟกล่าวคำอำลาแพทริกและเกรซอย่างอบอุ่น ก่อนกลับไปยังหมู่บ้านของพวกเขาผ่านประตูมิติ
ในฉากเครดิต เราได้เห็นว่าแพทริกและเกรซมีลูกชายคนแรกซึ่งพวกเขาตั้งชื่อว่า "บลู" เพื่อระลึกถึงเหล่าสเมิร์ฟที่ช่วยเหลือพวกเขา ส่วนเหล่าสเมิร์ฟก็สร้างหมู่บ้านขึ้นใหม่ในสไตล์นิวยอร์ก สื่อถึงการผจญภัยที่เปลี่ยนชีวิตพวกเขาไปตลอดกาล
ความรู้สึกหลังจากชมภาพยนตร์ :
การชมภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างความประทับใจอย่างลึกซึ้ง ทั้งในแง่ของเนื้อหาและความสนุกสนานที่เต็มไปด้วยอารมณ์หลากหลาย ตั้งแต่ความตื่นเต้น ความอบอุ่นหัวใจ ไปจนถึงความฮาที่แทรกเข้ามาในทุกช่วงตอน เรื่องราวของเหล่าสเมิร์ฟไม่ได้เป็นเพียงแค่การผจญภัยของตัวละครที่มีสีสันเท่านั้น แต่ยังแฝงไว้ด้วยข้อคิดและแง่มุมที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับความกล้าหาญ การเสียสละ และความสำคัญของการทำงานร่วมกัน
หนึ่งในสิ่งที่โดดเด่นมากคือความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครที่แสดงให้เห็นถึงมิตรภาพที่แน่นแฟ้น เหล่าสเมิร์ฟแสดงให้เห็นว่าความแตกต่างทางบุคลิกภาพไม่ได้เป็นอุปสรรคในการร่วมมือกันเพื่อเป้าหมายเดียว การที่พ่อสเมิร์ฟเสียสละตัวเองเพื่อปกป้องคนอื่น และคลัมซีที่ดูเหมือนซุ่มซ่ามแต่สามารถพิสูจน์ตัวเองได้ในเวลาที่สำคัญที่สุด สะท้อนถึงความหมายของการมีคุณค่าต่อตัวเองและการเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน
อีกจุดที่น่าชื่นชมคือการออกแบบฉากและเทคนิคพิเศษที่ทำให้ภาพยนตร์มีชีวิตชีวา การผสมผสานระหว่างโลกแฟนตาซีของเหล่าสเมิร์ฟกับโลกแห่งความจริงในนิวยอร์กซิตี้ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างลงตัว สีสันสดใสและการเคลื่อนไหวของตัวละครทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนอยู่ในหมู่บ้านสเมิร์ฟหรือวิ่งเล่นในเซ็นทรัลพาร์คไปพร้อมกับพวกเขา สิ่งนี้ช่วยเพิ่มความเพลิดเพลินและสร้างความรู้สึกเชื่อมโยงกับตัวละครได้อย่างดี
ในขณะเดียวกัน ภาพยนตร์ยังสอดแทรกอารมณ์ขันที่เรียบง่ายแต่มีเสน่ห์ ทั้งมุกตลกของเหล่าสเมิร์ฟที่เข้ากับทุกช่วงวัย และการตอบโต้ระหว่างการ์กาเมลกับอาซราเอลที่เพิ่มสีสันให้กับเรื่องราว ผู้ชมสามารถหัวเราะได้อย่างเต็มที่ในบางฉาก และในฉากที่ซาบซึ้งก็อาจถึงขั้นทำให้น้ำตาคลอ ความสมดุลระหว่างความสนุกและความลึกซึ้งทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้น่าจดจำ
สิ่งที่ไม่อาจมองข้ามได้คือบทบาทของแพทริกและเกรซ คู่สามีภรรยาที่ไม่เพียงแต่ช่วยเหลือเหล่าสเมิร์ฟ แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความรักและความเอาใจใส่ที่มีต่อกัน การตั้งชื่อลูกชายว่า "บลู" เพื่อรำลึกถึงเหล่าสเมิร์ฟเป็นการปิดท้ายที่สวยงาม สะท้อนถึงความผูกพันที่พวกเขาได้รับจากการผจญภัยครั้งนี้
หลังจากชมภาพยนตร์ ความรู้สึกที่หลงเหลืออยู่คือความสุขและแรงบันดาลใจ ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้เป็นเพียงการเล่าเรื่องแฟนตาซีธรรมดา แต่ยังทำให้เราฉุกคิดถึงคุณค่าของความสามัคคี การยอมรับในความแตกต่าง และการเห็นความสำคัญของสิ่งเล็กๆ ที่เรามักมองข้าม ไม่ว่าจะเป็นมิตรภาพ ครอบครัว หรือความกล้าที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง นี่คือภาพยนตร์ที่ไม่เพียงแต่สร้างรอยยิ้มให้ผู้ชม แต่ยังทิ้งความอบอุ่นไว้ในใจอย่างยาวนาน ติดตามเรื่องราวทั้งหมดของหนังได้ที่ mvhd24.com ภาพคมชัด ไม่มีโฆษณาคั่น รับชมหนังฟรี ตลอด 24 ชม.
#TheSmurfs #เดอะสเมิร์ฟ #ดูหนังเกาหลี #mvhd24 #รีวิวหนัง #MovieReview #MovieSpoilers
กลับด้านบน Report this page